สาวมึน! จอดรถหน้าบ้าน คนร้ายเอาน้ำมันเบรกราด สีลอกทั้งคัน

สาวมึน! จอดรถหน้าบ้าน คนร้ายเอาน้ำมันเบรกราด สีลอกทั้งคัน

สาวมึน จอดรถหน้าบ้าน  โดนคนร้ายเอาน้ำมันเบรกราดรถ เสียหายมาแล้วกว่า 3 ครั้ง วอนช่วยหาตัวคนผิด ไม่เข้าใจเจตนา เพราะไม่เคยทะเลาะกับใคร 5 ม.ค. 65 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก นามว่า Kungja Nuntapuk Ajsattru  ได้โพสต์ลงไปยังกลุ่ม “ข่าวสาร-คนปากเกร็ด” ดังนี้ “ขออนุญาติแอดมินตามหาผู้ต้องสงสัยค่ะ  เนื่องจาก ดิฉันจอดรถไว้ที่หน้าบ้าน โดนผู้ไม่หวังดี ราดน้ำมันเบรกหรือ ที่สารที่ลอกสีรถ ช่วงเวลาประมาณตี 1 – ประมาณตี 2 ของวันที่ 29 เข้าวันที่ 30 ธันวาคม 2564 ค่ะ รบกวนทางกลุ่มถ้าได้เบาะแส แจ้งได้เลยนะคะ”

ซึ่งเธอได้เผยว่า ก่อนหน้านี้ เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 แล้ว สำหรับ ครั้งที่ 1 และ 2 เกิดขึ้นราวๆ 4-5 ปีก่อน

ตัวเธอเองกับสามีไม่เข้าใจเจตนาของผู้ไม่ประสงค์ดีว่าทำไปเพื่ออะไร เพราะ ตนกับครอบครัวอยู่ที่นี่มาหลายสิบปี ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะเเว้งกับใคร ทั้งนี้ เมื่อตอนโดนน้ำมันเบรกราดรถในครั้งแรกและครั้งที่ 2 ตนได้เข้าแจ้งความกับ สภ.ปากเกร็ดแล้ว แต่ไม่สามารถหาผู้ร้ายจนพบ

เธอและครอบครัวไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นอีกครั้ง และเธอได้ฝากทิ้งท้ายถึงคนร้ายว่า เหตุใดจึงทำกับเธอแบบนี้ หากมีปัญหาอะไรอยากให้มาคุยกันดีๆ

พ่อบ้านหงุดหงิด ระบายอารมณ์ กระหน่ำชกประตู จนบ้านพังยับ สุดท้าย! สิ้นลายนักเลง บ้านพังตรงไหน ซ่อมเองหมดเลย 3 ม.ค. 65 ผู้ใช้ TikTok @muk6873  ได้โพสคลิป เหตุการณ์จริง จากกล้องวงจงปิดภายในบ้าน โดยในคลิปเป็น ชายคนหนึ่ง กำลังเดินเข้าห้องมาแบบฉุนเฉียว ก่อนตัดสินใจระบายอารมณ์ ด้วยการชกประตูอย่างแรงหลายครั้ง ทำให้บ้านพังยับ

แต่ท้ายคลิป เสือสิ้นลาย เป็น ชายคนเดิม กำลังใช้ค้อนกับตะปู ซ่อมบ้านที่ตนเองทำพังไว้  เรียกได้ว่า ต่อยอะไรพังไว้ ประตูทุกบานที่ทำพัง ก็ต้องซ่อมเองทั้งหมดเลยทีเดียว

เมื่อคลิปวีดีโอนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวโซเชียลออกมาคอมเมนต์แซวกันอย่างขำขันจำนวนมากเช่น สุดท้าย เสือก็สิ้นลาย, หมดกันนักเลงเก่า ซึ่งคลิปวีดีโอนี้ผู้ที่นำมาโพสลง TikTok ก็คือแฟนสาวของชายหนุ่มในคลิปนั่นเอง

นอกจากคอมเมนต์แซวขำขันของชาวเน็ตแล้ว บางส่วนก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงความอารมณ์ร้อนของผู้ชายในคลิป ว่าหากชายหนุ่มหงุดหงิด บ้านทั้งหลังยังพังได้ แฟนสาวเองก็ต้องระวังตัวให้ดี หากชายหนุ่มอารมณ์ร้อน และหงุดหงิดใส่เธอ อาจจะไม่ปลอดภัยก็ได้เช่นกัน

ซึ่งขณะนี้ 5 ธ.ค. 65 คลิปวิดีโอนี้มีผู้เข้าชมถึง 17ล้านวิว เรียกยอดไลค์ไปได้ถึง 1.5 ล้านคนและมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นนับหมื่นเลยทีเดียว

ฆ่าลูก 6 ขวบยัดรถ ‘คดีพลิก’ ไม่ใช่พ่อเลี้ยง แม่เปิดปากสารภาพลงมือเอง

คดีพลิก ข่าวพบศพเด็ก 6 ขวบ เสียวีชวิตปริศนาในรถ ล่าสุด แม่ สารภาพแล้วเป็นคนลงมือทำ หลังก่อนหน้านี้หลายคนสงสัยตัวพ่อเลี้ยง จากข่าวพบศพเด็กชาย 6 ขวบ เสียชีวิตปริศนารถยนต์เก๋ง ซึ่งจอดอยู่ริมถนนภายในชุมชน แหลมทองหลาง ม.5 ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา สภาพศพถือว่าตายผิดธรรมชาติ โดยมีเลือดออกที่จมูก ทำให้ต่อมา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ศพดส.ตร. (ชุด TICAC) ร่วมกับ ตํารวจภูธรภาค 2, ภ.จว. ตราด และ เจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.แหลมงอบ ตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตและสอบปากคําผู้เกี่ยวข้องให้ชัดเจน เพื่อพิสูจน์ทราบสาเหตุการเสียชีวิตและมีการกระทําผิดกฎหมายหรือไม่

ต่อมา เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2565 ตามที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ ว่า นายปัญญา ชัยเชียงเอม อายุ 43 ปี พ่อเลี้ยง ของ ด.ช.สายฟ้า ถนอมวงษ์ อายุ 6 ปี ได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือทําร้ายร่างกาย ด.ช.สายฟ้าฯ จน เสียชีวิต โดยก่อนเกิดเหตุได้เสพยาเสพติด (ยาไอซ์) เมื่อนายปัญญาฯจะออกจากบ้าน ด.ช.สายฟ้าฯ ได้ร้องตาม จะออกไปนอกบ้านด้วย นายปัญญาฯ เกิดความโมโหจึงลงมือทําร้ายร่างกาย ด.ช.สายฟ้าฯ

โดยจับโยนไป กระแทกกับล้อรถแล้วนําไปนอนในรถ แต่เจ้าหน้าที่ตํารวจไม่ปักใจเชื่อจึงสืบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม จนวันที่ 4 มกราคม 2565 น.ส.นลินรัตน์ฯ จึงได้รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือทําร้ายร่างกาย ด.ช.สายฟ้าฯ บุตรชาย

โดยพฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2555 เวลาประมาณ 07.30 น. ตนได้ไปปลุกลูกชาย (ผู้เสียชีวิต) ภายในรถยนต์คันเกิดเหตุ พบว่าลูกชายอุจจาระภายในรถ ตนจึงเกิดความโมโหและได้ใช้ไม้แขวนเสื้อที่ทําจากไม้ตีลูกชายที่บริเวณศีรษะและตามร่างกายจํานวนหลายครั้งจนไม้แขวนเสื้อหัก

จากนั้นลูกชายได้ ออกไปเล่นนอกบ้านและกลับไปนอนภายในรถดังกล่าว เมื่อเวลา 21.00 น. จนถึงเช้าวันที่ 2 มกราคม 2555 จึง ได้ทราบว่าลูกของตนเสียชีวิตในรถดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่ตนไม่แจ้งตํารวจ เนื่องจากมีความตกใจกลัว และเกรง ว่าจะไม่มีคนดูแลลูกสาวอีกคนของตนที่มีอายุเพียง 11 เดือน ซึ่งเป็นลูกของตนและนายปัญญาฯ

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตํารวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจเปรียบเทียบ DNA ที่พบบนไม้ แขวนเสื้อ ตลอดจนเปรียบเทียบบาดแผลของผู้เสียชีวิตกับไม้แขวนเสื้อไม้ตามคําให้การ เพื่อใช้พิสูจน์ยืนยัน การกระทําความผิดของ น.ส.นลินรัตน์ฯ ส่วนกรณีลูกสาวอีกคน อายุ 11 เดือน ของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ขณะนี้ได้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็ก กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด